4 พฤศจิกายน 2565 มีปรากฏการณ์ที่อัปยศอดสู สำหรับวงการสาธารณสุขเกิดขึ้นมาอีกเรื่องหนึ่ง (แปลว่ามีหลายเรื่องที่ควรแก่การติดตาม) เมื่อแพทย์คนหนึ่งทางจังหวัดภาคเหนือ ได้แสดงภาษากาย ภาษาพูดที่ไม่น่าเชื่อว่า วิญญูชนที่เป็นแพทย์จะกระทำอย่างนั้นได้
.
“บุคคลที่มีจิตวิญญาณของแพทย์ตามปกติ (ที่ผิดปกติก็ว่ากันไป) ย่อมมีความพยายามบำบัดทุกข์ สร้างสุขให้กับสาธารณชน จนเกิดเป็นปทัสถานของชีวิต แพทย์น้อยยิ่งกว่าน้อยที่เป็นแบบแพทย์ที่ปรากฏในข่าว ไม่แน่ใจว่าที่จังหวัดของเราจะมีหรือไม่ หากมี แม้จะน้อยเพียงใด ก็ต้องช่วยกันขจัดมะเร็งร้ายแห่งความดีที่บรรพบุรุษของวิชาชีพเพียรสั่งสมมา”
นพ.ไพศาล เกื้ออรุณ ประธานคณะกรรมการจริยธรรมจังหวัดตรัง อดีตนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด และนักสันติวิธี
คอลัมน์ : พบหมอไพศาล
.
4 พฤศจิกายน 2565 มีปรากฏการณ์ที่อัปยศอดสู สำหรับวงการสาธารณสุขเกิดขึ้นมาอีกเรื่องหนึ่ง (แปลว่ามีหลายเรื่องที่ควรแก่การติดตาม) เมื่อแพทย์คนหนึ่งทางจังหวัดภาคเหนือ ได้แสดงภาษากาย ภาษาพูดที่ไม่น่าเชื่อว่า วิญญูชนที่เป็นแพทย์จะกระทำอย่างนั้นได้
บุคคลที่มีจิตวิญญาณของแพทย์ตามปกติ (ที่ผิดปกติก็ว่ากันไป) ย่อมมีความพยายามบำบัดทุกข์ สร้างสุขให้กับสาธารณชน จนเกิดเป็นปทัสถานของชีวิต แพทย์น้อยยิ่งกว่าน้อยที่เป็นแบบแพทย์ที่ปรากฏในข่าว ไม่แน่ใจว่าที่จังหวัดของเราจะมีหรือไม่ หากมี แม้จะน้อยเพียงใด ก็ต้องช่วยกันขจัดมะเร็งร้ายแห่งความดีที่บรรพบุรุษของวิชาชีพเพียรสั่งสมมา
การที่ผู้บริหารออกมาเสนอหน้า สื่อสารแก้ตัวว่า แพทย์ส่วนใหญ่ดี เลวเยี่ยงนี้มีน้อยนัก เป็นเรื่องที่สังคมไม่ควรยอมรับ สภาวิชาชีพก็ควรเฉียบไว จริงจังในการแก้ไข เพื่อเป็นหลักประกันแห่งสุขให้สมาชิกของสังคม สงสาร เห็นใจแพทย์ดี ๆ ที่ต้องมามัวหมอง เพราะเพื่อนร่วมวิชาชีพเช่นนี้
การปฏิบัติหน้าที่กำกับให้แพทย์มีจริยธรรมในการดูแลประชาชน ผู้บริหารน่าจะต้องมีความรับผิดชอบมากกว่าเพียงแค่ ออกมาลอยหน้าลอยตา โชว์ความไร้ซึ่งความรับผิดชอบว่า ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 แล้ว ที่แพทย์คนนี้กระทำการอันน่าสะอิดสะเอียน ผู้กุมบังเหียนงานสร้างสุขควรอย่างยิ่งที่จะใส่ใจทุกข์สุขของสังคมมากกว่านี้นะครับ หรืออาจบางที จะมีขอจำกัดประการใด ก็ควรบอกกล่าวกับสังคมเสีย
การสื่อสารอย่างสันติ คงเป็นเรื่องที่ควรได้รับการพัฒนาในวิชาชีพนี้อย่างรีบด่วน การดูแลคนทั้งคนจะต้องได้รับการใส่ใจ ไม่น้อยไปกว่าความสามารถในการดูแลรักษาโรค อาจารย์แพทย์บางท่าน พยายามอธิบายว่า เฉพาะสอนเรื่องการรักษาโรค เวลาตามหลักสูตรก็ไม่เพียงพอแล้ว จากนั้นก็จบด้วยการไม่สั่งสอนการสื่อสารที่เป็นสุนทรียสาระภาษา ปล่อยให้เป็นตะเกียกตะกายเรียนรู้ ปฏิบัติกันไปตามยถากรรม สุดท้ายโอกาสที่จะเกิดเหมือนแพทย์ที่เป็นข่าวก็จะมากขึ้นอย่างน่าสะพรึงกลัว
ในฐานะประชาชนคนหนึ่ง ขอเรียกร้องให้มีการจัดการที่เด็ดขาด ว่องไว อีกทั้งขอให้มีการป้องกันเหตุการณ์ทำนองนี้อย่างจริงจัง ขอให้กำลังใจด้วยความเคารพ ชื่นชมยิ่ง ในผู้ประกอบวิชาชีพที่ดี ๆ อีกมากมาย แต่ไม่ขอยอมรับที่จะให้คนชั่วใช้วิชาชีพ เป็นที่อยู่อาศัย ผู้ใดมีหน้าที่ขอความกรุณาดำเนินการตามหน้าที่โดยพลันเถอะ ขอขอบคุณหากได้กระทำการ
แต่หากละเว้นการกระทำการ เพื่อให้เกิดประโยชน์กับผู้ใดโดยไม่ชอบ เบื้องต้นขอประณามการกระทำเช่นนั้น ส่วนจะมีคนแบบลุงศรีที่ถูกชก มาทำหน้าที่ประสานการฟ้องร้องตาม มาตรา 157 หรือไม่ ก็ว่ากันไป ทั้งนี้เพื่อให้เกิดประโยชน์สุขกับสังคโดยรวมต่อไป
.
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง
เมืองกีฬา เมืองแห่งความสุข (3) : นพ.ไพศาล เกื้ออรุณ อดีตนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด และนักสันติวิธี
ตรังเมืองแห่งความสุข (2) : นพ.ไพศาล เกื้ออรุณ อดีตนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด และนักสันติวิธี
.
โยนิโสมนสิการ หนองบัวลำภู : นพ.ไพศาล เกื้ออรุณ อดีตนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด นักสันติวิธี อดีตคอลัมนิสต์หนังสือพิมพ์ฅนตรัง
.