เดินหน้าต่อ เหยื่อลิงค์เว็บดูดเงิน 1.4 ล้าน ควงทนายความ ยื่นขอคืนเงินจาก 2 ธนาคาร ภายใน 3 วัน

ตรัง-เดินหน้าต่อ เหยื่อลิงค์เว็บดูดเงิน 1.4 ล้าน ควงทนายความ ยื่นขอคืนเงินจาก 2 ธนาคาร ภายใน 3 วัน จี้ตอบ สาเหตุถูกล้วงตับข้อมูลส่วนบุคคล ยันเป็นการโจรกรรมผ่านเว็บปลอม อ้างกรมสรรพากร เจ้าของบัญชีไม่ได้มีส่วนถอนหรือโอนเงิน


จากกรณีนางนิส ไทรงาม อายุ 63 ปี ชาวอ.ห้วยยอด จ.ตรัง พร้อมด้วย น.ส.นิดา ไทรงาม อายุ 35 ปี ซึ่งเป็นลูกสาว และนางสาวศิริวรรณ ไทรงาม อายุ 36 ปี ซึ่งเป็นลูกสะใภ้ ร้องเรียนผ่านสื่อมวลชนระบุถูกมิจฉาชีพโทรศัพท์เข้ามาอ้างเป็นเจ้าหน้าที่กรมสรรพากรแจ้งเรื่องค้างภาษี พร้อมแชทไลน์ส่งลิ้งค์อ้างเป็นลิ้งค์เว็บกรมสรรพากรเข้ามา ให้น.ส.นิดา กดลิ้งค์เข้าไปตรวจสอบว่ามีการค้างภาษีหรือไม่ ซึ่งขณะนี้อยู่ในช่วงที่จะต้องยื่นจ่ายภาษี แต่เมื่อกดเข้าไปแล้วโทรศัพท์ค้างขึ้นหน้าจอเป็นสีฟ้า มีโลโก้กรมสรรพากร พร้อมข้อความว่า “668325 อยู่ระหว่างการทำการตรวจสอบชื่อนาม-สกุลห้ามใช้งานโทรศัพท์” และโทรศัพท์ไม่สามารถทำอะไรได้อีก จากนั้นปรากฎว่า ในเวลาและนาทีเดียวกันกับที่โทรศัพท์ค้าง ทำธุรกรรมใด ๆ ไม่ได้อีกเลย ก็ปรากฎข้อความเงินถูกโอนออกจากบัญชี ธนาคารไทยพาณิชย์ จำนวน 1,458,000 บาท และอีกแอพพลิเคชั่นธนาคารกรุงไทย จำนวน 10,000 บาท ซึ่งเงินที่โดนดูดไปนั้น ทั้ง 2 บัญชี ล้วนใช้แอพพลิเคชั่นของธนาคารผู้รับฝากเงินกับโทรศัพท์ทั้ง 2 ธนาคาร จึงรีบประสานติดต่อเจ้าหน้าที่ธนาคาร และเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ห้วยยอด ทราบเบื้องต้นว่าเงินถูกโอนเข้าบัญชีชื่อ น.ส.สุภาพร กุลอามาตย์ และทางธนาคารได้ทำการอายัดบัญชีแล้ว แต่สุดท้ายก็ไม่ทันการณ์ เงินถูกโอนต่อไปยังบัญชีอื่น ๆ อย่างรวดเร็ว และผู้เสียหายเดินทางเข้าพบผู้จัดการธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาห้วยยอด แต่ไม่สามารถเข้าพบผู้จัดการธนาคารได้ และยังไม่มีการแสดงท่าทีรับผิดชอบใดๆในฐานะธนาคาร ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

.

อ่านข่าว

เจ้าของเงินสูญจากบัญชี 1.4 ล้าน เตรียมตั้งทนายฟ้องธนาคารเรียกเงินคืน เหตุไม่เหลียวแล ผจก.หลบหน้า

หลังจากเหตุการณ์เกิดขึ้นผู้เสียหายได้ปรึกษาทนายความ เพื่อป้องเรียกค่าเสียหายจากธนาคารทั้ง 2 ธนาคาร โดยทนายความระบุ โดยเป็นการโจรกรรมเงินผ่านลิงก์ปลอมที่อ้างว่าเป็นของกรมสรรพากร ซึ่งหากธนาคารมีระบบรักษาความปลอดภัยที่ดีพอ ใครก็ไม่สามารถจะเจาะข้อมูลของธนาคารและดูดเงินไปได้ เงินนั้นจึงเป็นเงินของธนาคาร ไม่ใช่เงินลูกค้า เพราะลูกค้าตัวจริงไม่ได้เบิกถอนเอง โดยทางผู้เสียหายเพียงแค่ทำการกดลิงค์เพื่อตรวจสอบข้อมูลเรื่องภาษี ไม่ได้มีการทำธุรกรรมทางการเงินแต่อย่างใด จึงเรียกร้องผู้เกี่ยวข้องเร่งหาทางป้องกันการทำธุรกรรมทุกประเภทผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ เพราะตอนนี้เป็นปัจจัยหลักในการใช้ชีวิต ต้องมีระบบป้องกันปราบปรามป้องกันความเดือดร้อน

ล่าสุดวันนี้ (19 กันยายน 2565) เวลา 14.00 น. นายไกรสร ชูเพชร ทนายความ พร้อมด้วย ผู้เสียหายทั้ง 3 คน ได้เดินทางไปยื่นหนังสือถึงผู้จัดการ ผู้จัดการธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด(มหาชน) สาขาห้วยยอด และ ธนาคารกรุงไทย จำกัด สาขาห้วยยอดโดยเรียก เพื่อร้องให้คืนเงิน โดยยื่อนหนังสือเรียกร้องแก่ทั้ง 2 ธนาคาร ความระบุ 1.ขอให้ธนาคารฯดำเนินการ คืนเงินจำนวน 1,458,000 บาท และ จำนวน 10,000 บาท ให้กับ เจ้าของบัญชีภายใน 3 วันทำการ 2. ขอให้ธนาคารส่งข้อมูลการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เสียหาย ว่ามีผู้ใดเป็นผู้เข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล ตามที่ผู้เสียหายได้แจ้งไว้ต่อธนาคาร โดยเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2560 จนถึงวันที่ 13 กันยายน 2565 ซึ่งให้ส่งภายใน 3 วันทำการ

นายไกรสร ชูเพชร ทนายความ กล่าวว่า การเดินทางมายื่นหนังสือต่อธนาคารทั้ง 2 ธนาคาร เพื่อแจ้งให้ทราบว่าตัวผู้เสียหายไม่ได้ใช้แอพพลิเคชั่นโอนเงินออกจากบัญชีธนาคารด้วยตัวเอง จึงจำเป็นต้องมีหนังสือเพื่อขอให้ทางธนาคารคืนเงิน  และขอให้ธนาคารส่งรายงานการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เสียหาย ตั้งแต่วันที่ 1-13 กันยายน 2565 ว่าก่อนเกิดเหตุมีใครเป็นผู้เข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เสียหายซึ่งได้ให้ข้อมูลไว้กับธนาคาร ซึ่งผจก.ธนาคารทั้ง 2 ธนาคาร ได้รับปากว่าจะส่งให้กับผู้บริหารระดับสูงได้รับทราบ และเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด หลังจากนี้ทีมทนายความจะช่วยกันดูเรื่องข้อกฎหมาย ว่าจะดำเนินการฟ้องร้อง เรียกร้อง เอาเงินคืนจากบุคคลใด และจะดำเนินการทางคดีต่อไป ส่วนกระบวนการของตำรวจนั้น เมื่อวันอาทิตย์ 18 กันยายนที่ผ่านมา ตนพร้อมผู้เสียหายไปให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวน สภ.ห้วยยอด ในฐานะพยานไว้แล้ว ในส่วนผู้จัดการธนาคารทั้ง 2 ธนาคาร ให้ความร่วมมือกับผู้เสียหายเป็นอย่างดี เพราะตระหนักว่าในปัจจุบันแอพพลิเคชั่น และโซเซียลมีเดีย เป็นปัจจัยสำคัญในการดำเนินชีวิตไปแล้ว

อย่างไรก็ตามขณะที่ผู้สื่อข่าวเข้าไปพร้อมผู้เสียหาย และ ทนายความ เพื่อบันทึกภาพรายงานข่าว ที่ธนาคารกรุงไทย สาขาห้วยยอด ได้มีพนักงานธนาคารรายหนึ่งสั่งห้ามบันทึกภาพ โดยอ้างกฎหมาย PDPA แต่ในขณะที่ทางธนาคารไทยพาณิชย์ให้ความร่วมมือและให้บันทึกภาพได้ตามปกติ

Share:

Share on facebook
Facebook
Share on pinterest
Pinterest

Social Media

Most Popular

ครบรอบ 109 ปี “โรงเรียนวิเชียรมาตุ” 1ก.ค.68 “ลูกแม่แก้ว” รวมพลังรำลึกพระมหากรุณาธิคุณ “สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนี พันปีหลวง” จัดฟุตบอลจตุรมิตรชิงถ้วยพระราชทาน

อ่านต่อ »

“ปุ้มปุ้ย” เดินหน้า Save The Ocean “พี่ปุ้มปุ้ย…พาน้องพะยูนกลับบ้าน” มอบโดรนกลุ่มอาสาพิทักษ์ดุหยงเกาะลิบง หนุนสำรวจศึกษาประชากรพะยูน-หญ้าทะเล ใจฟูสาธิตบินพบอวดโฉม 3 ตัวพร้อมผองเพื่อนเต่าทะเล รองอ.กรมทช. เผยสัญญาณดีหญ้าทะเลฟื้น พะยูนเริ่มกลับบ้าน ขยายผลโมเดลร่วมอนุรักษ์ เอกชน-รัฐ-ชุมชน

อ่านต่อ »

จากต้นกล้าสู่การวัดผลจริง! “จระเข้” ปักธงนโยบายยั่งยืน ลุยต่อ “Jorakay Green Earth : พาหัวใจสีเขียวไปร่วมปลูกป่า” ปี2 ในตรัง มุ่งสร้างคาร์บอนเครดิต-เตรียมขึ้นทะเบียน T-VER ดูแลป่าโกงกางกว่า 62.5 ไร่ต่อเนื่อง 10 ปี ปักหมุด Carbon Neutrality ตามเป้าปี50

อ่านต่อ »

Categories

ครบรอบ 109 ปี “โรงเรียนวิเชียรมาตุ” 1ก.ค.68 “ลูกแม่แก้ว” รวมพลังรำลึกพระมหากรุณาธิคุณ “สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนี พันปีหลวง” จัดฟุตบอลจตุรมิตรชิงถ้วยพระราชทาน

ตรัง-โรงเรียนวิเชียรมาตุ จังหวัดตรัง จัดพิธีวันคล้ายวันพระราชทานกำเนิดอย่างสมเกียรติ เนื่องในโอกาสครบรอบ 109 ปี 1ก.ค.68 โดยมีศิษย์เก่ารุ่นต่าง ๆ พร้อมใจเข้าร่วมกิจกรรมตลอดวัน แสดงพลังความรักและความผูกพันใต้ร่ม “สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนี พันปีหลวง”

“ปุ้มปุ้ย” เดินหน้า Save The Ocean “พี่ปุ้มปุ้ย…พาน้องพะยูนกลับบ้าน” มอบโดรนกลุ่มอาสาพิทักษ์ดุหยงเกาะลิบง หนุนสำรวจศึกษาประชากรพะยูน-หญ้าทะเล ใจฟูสาธิตบินพบอวดโฉม 3 ตัวพร้อมผองเพื่อนเต่าทะเล รองอ.กรมทช. เผยสัญญาณดีหญ้าทะเลฟื้น พะยูนเริ่มกลับบ้าน ขยายผลโมเดลร่วมอนุรักษ์ เอกชน-รัฐ-ชุมชน

ตรัง-“ปุ้มปุ้ย” เดินหน้า Save The Ocean มอบโดรนให้กลุ่มอาสาสมัครพิทักษ์ดุหยง เกาะลิบง ในโครงการ “พี่ปุ้มปุ้ย…พาน้องพะยูนกลับบ้าน” สนับสนุนการสำรวจและศึกษาวิจัยประชากรพะยูน และแหล่งอาหาร ใจฟู สาธิตบินพบอวดโฉม 3 ตัว พร้อมผองเพื่อนน้องเต่าทะเล รองอ.กรมทช. เผย สัญญานดี หญ้าทะเลฟื้นตัว พะยูนเริ่มกลับบ้าน เตรียมขยายผลโมเดลร่วมอนุรักษ์ เอกชน-รัฐ-ชุมชน

จากต้นกล้าสู่การวัดผลจริง! “จระเข้” ปักธงนโยบายยั่งยืน ลุยต่อ “Jorakay Green Earth : พาหัวใจสีเขียวไปร่วมปลูกป่า” ปี2 ในตรัง มุ่งสร้างคาร์บอนเครดิต-เตรียมขึ้นทะเบียน T-VER ดูแลป่าโกงกางกว่า 62.5 ไร่ต่อเนื่อง 10 ปี ปักหมุด Carbon Neutrality ตามเป้าปี50

จากต้นกล้า สู่การวัดผลจริง! “จระเข้” ปักธงนโยบายยั่งยืน ลุยต่อ “Jorakay Green Earth: พาหัวใจสีเขียวไปร่วมปลูกป่า” ปีที่ 2 ใน จ.ตรัง มุ่งสร้างคาร์บอนเครดิต-เตรียมขึ้นทะเบียน T-VER เปิดแผนดูแลป่าโกงกางพื้นที่กว่า 62.5 ไร่ ต่อเนื่อง 10 ปี ปักหมุด Carbon Neutrality ตามเป้าในปี 2050

ค้นหาหัวข้อข่าวที่คุณสนใจ

Generic selectors
Exact matches only
Search in title
Search in content
Post Type Selectors