.
.
ตรัง-แห่สมัครสมาชิกพรรคประชาชนจังหวัดตรัง คึกคัก! หลังกทม.กวาดยอดทะลุเป้า แกนนำเผยเชื่อมือกก.บห.ชุดใหม่ พร้อมตั้งสาขาพรรคใน 6 เดือน ลุยเลือกตั้งปี 70 เชื่อสานอุดมการณ์-ทำงานหนักรอบหน้าได้ส.ส.เมืองตรังแน่ ยกเคยกวาดบัญชีรายชื่อที่1รอบก่อน ชาวบ้านโอดพรรคถูกกระทำ เผย ชอบนโยบายก้าวหน้า พูดตรง พูดจริง ยังหนุนแก้ม. 112 แบบไม่ล้มล้างการปกครอง
.
จากกรณีพรรคประชาชนเปิดตัวการรณรงค์รับสมัครสมาชิกพรรคและรับบริจาคเงินสนับสนุนการดำเนินการของพรรคประชาชน ตามเป้าหมายบรรลุสมาชิกพรรค 1 แสนคน และเงินบริจาค 10 ล้านบาทภายในเดือนสิงหาคม โดยล่าสุดที่สเตเดียมวัน กรุงเทพมหานคร ในการเปิดรับสมัครสมาชิกแบบออนไซต์เมื่อวันที่ 10 สิงหาคมที่ผ่านมา นำโดยนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ตลอดจนแกนนำอดีตพรรคก้าวไกล ร่วมรณรงค์ ทำให้ยอดเงินบริจาคทะลุ 20 ล้านบาทไปแล้ว ขณะที่ยอดสมัครสมาชิกพรรคเกือบ 4 หมื่นคนแล้ว โดยแกนนำพรรคประชาชนพร้อมเดินสายทั่วประเทศเพื่อรณรงค์ต่อเนื่อง ทำให้บรรดาเครือข่ายพรรคประชาชนทั่วประเทศ ต่างระดมรณรงค์เปิดรับสมัครสมาชิกพรรครวมถึงรับเงินบริจาคกันอย่างคึกคัก
.
.
โดยเมื่อช่วงเย็นวันที่ 10 สิงหาคม 2567 ที่ตลาดกลางเมือง ตำบลโคกหล่อ อำเภอเมือง จังหวัดตรัง พรรคพลังประชาชนจังหวัดตรัง จัดกิจกรรมตั้งโต๊ะรณรงค์เปิดรับสมัครสมาชิกพรรคแบบออนไซต์ รวมถึงเปิดรับเงินบริจาคสนับสนุนพรรค บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก มีอดีตผู้สมัครส.ส.ของอดีตพรรคก้าวไกลพร้อมคณะทำงานมาคอยอำนวยความสะดวก นำโดยนายศุภกร สุวรรณหมัด หรือ ทนายเก่ง อดีตผู้สมัครส.ส.ตรังเขต 1 อดีตพรรคก้าวไกล ในฐานะแกนนำพรรคประชาชนจังหวัดตรัง นายประภาส โรจนพิทักษ์ ที่ปรึกษาคณะทำงานพรรคประชาชนจังหวัดตรัง โดยมีบรรดาอดีตสมาชิกพรรคก้าวไกลจังหวัดตรังเดินทางมาสมัครจำนวนมาก รวมถึงประชาชนทั่วไปที่สนใจ โดยเป็นที่น่าสังเกตว่า นอกจากจะมีบรรดาคนรุ่นใหม่และประชาชนทั่วไปแล้ว ยังมีบุคคลน่าสนใจมาลงสมัครอีก อาทิ สมาชิกสภาเทศบาลในพื้นที่ ข้าราชการ เกษตรกร รวมถึงอดีตสมาชิกพรรคการเมืองอื่น ที่ย้ายมาสมัครสมาชิกกับพรรคประชาชนในครั้งนี้ โดยส่วนใหญ่ให้เหตุผลว่า ต้องการเห็นความเปลี่ยนแปลง ให้การเมืองไทยดีขึ้นกว่าเดิม และมีความเห็นใจที่พรรคก้าวไกลถูกยุบ จึงหวังว่าพรรคประชาชนจะสานต่อนโยบายที่มีความก้าวหน้าให้กับสังคมไทยต่อไป ทั้งนี้สำหรับค่าสมัครสมาชิกพรรครายปีอยู่ที่ 50 บาท ตลอดชีพ 500 บาท โดยมีหลายคนที่ให้เงินเกินกว่าค่าสมัคร โดยบอกกับเจ้าหน้าที่รับสมัครว่าส่วนที่เกินให้ลงในรายละเอียดเอกสารการบริจาคทั้งหมด
.
.
นายกฤษดา ประเสริฐสิทธิ์ อายุ 34 ปี (เสื้อแดง) กล่าวว่า มาสมัครสมาชิกพรรคประชาชนทั้งครอบครัว รวม 3 คน มีตน ภรรยา และลูก เหตุผลเพราะติดตามมาตั้งแต่พรรคอนาคตใหม่ พรรคก้าวไกล เห็นว่าพรรคถูกกระทำมาโดยตลอด ส่วนตัวชอบอุดมการณ์พรรคประชาชนที่สืบเนื่องต่อกันมา อยากเห็นประเทศมีความก้าวหน้ามากกว่านี้ ไม่อยากให้จมอยู่กับสิ่งเก่าๆ ชื่นชอบในนโยบายที่มีความก้าวหน้าและเป็นจริง นำสู่การเปลี่ยนแปลงสังคมไทย อาทิ การยกเลิกการเกณฑ์ทหาร และการแก้ไขมาตรา 112 ที่ไม่เป็นการล้มล้างระบอบการปกครอง เพราะมีเยาวชนจำนวนมากที่ถูกจับเพราะปัญหาการบังคับใช้กฎหมายในส่วนนี้ อยากฝากไปยังแกนนำพรรคประชาชนชุดใหม่โดยเฉพาะหัวหน้าพรรคว่า ให้ลงพื้นที่ให้เข้าถึงประชาชนกลุ่มเป้าหมาย เพื่อพบปะกับบรรดาเยาวชนคนรุ่นใหม่ เพราะให้คนเหล่านี้มาช่วยกันสร้างความเปลี่ยนแปลง เพราะวันนี้การเมืองเปลี่ยนไปแล้ว มันเป็นเรื่องของคนรุ่นใหม่ที่มาขับเคลื่อนแล้ว และขอให้หัวหน้าพรรคและแกนนำพรรคตั้งใจทำงานให้เต็มที่
.
ขณะที่หญิงอีกรายผู้ขอสงวนนาม วัย 66 ปี ซึ่งมาสมัครสมาชิกพรรคพร้อมแต่งกายด้วยชุดสีส้ม มากับเพื่อน 2 คน ระบุว่า เหตุผลที่มาสมัคร เพราะติดตามและชื่นชอบพรรค รักมาตั้งแต่เป็นพรรคก้าวไกล เมื่อพรรคก้าวไกลถูกยุบ ก็รักพรรคประชาชนอีก เหตุผลคือเขาพูดตรง พูดความจริง และชื่นชอบในนโยบายที่นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงใหม่ๆ ที่จะส่งผลให้บ้านเมืองและเศรษฐกิจดีขึ้นกว่าเดิม เพราะทุกวันนี้ลำบากกันมาก ค้าขายกันไม่ได้ การเมืองไทยวันนี้จึงถึงจุดที่ต้องมีความเปลี่ยนแปลงได้แล้ว อยากให้สังคมไทยเปิดโอกาสให้พรรคประชาชนได้ทำงานช่วยประชาชน และตนจะติดตามการทำงานและสนับสนุนพรรคอย่างต่อเนื่องต่อไป
.
.
ด้านนายศุภกร สุวรรณหมัด หรือ ทนายเก่ง อดีตผู้สมัครส.ส.ตรังเขต 1 อดีตพรรคก้าวไกล ในฐานะแกนนำพรรคประชาชนจังหวัดตรัง (เสื้อขาว) ให้สัมภาษณ์ว่า หลังจากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพรรคก้าวไก ถัดไปเพียง 48 ชั่วโมง แกนนำก็ได้ตั้งพรรคประชาชนขึ้นจนสำเร็จโดยวันที่ 9 สิงหาคมที่ผ่านมา อดีตส.ส.พรรคก้าวไกลที่มีทั้งหมด 143 คน รวมทั้งเครือข่าย แนวร่วม สมาชิกของอดีตพรรคก้าวไกล โดยเฉพาะส.ส.ของอดีตพรรคก้าวไกลทั้งหมด ได้ย้ายมาสังกัดพรรคประชาชนอย่างครบถ้วน และตัดสินใจเดินหน้าต่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงให้อำนาจสูงสุดเป็นของประชาชน เครือข่ายพรรคประชาชนจังหวัดตรังจึงร่วมเดินหน้าเปิดรับสมัครสมาชิกพรรคอย่างต่อเนื่อง และพบว่าได้รับความสนใจจากอดีตสมาชิกพรรคเดิมและประชาชนชาวตรังจำนวนมาก สอดรับกับตัวเลขรับบริจาคของพรรคที่ทะลุ 20 ล้านบาท ยอดสมาชิกทะลุ 4 หมื่นคนแล้วในเวลาอันสั้น
.
นายศุภกร กล่าวว่า เดิมสมาชิกอดีตพรรคก้าวไกลจังหวัดตรังมีพันกว่าคน และตอนนี้ยอดสมัครสมาชิกพรรคประชาชนทยอยมาหลายร้อยคนแล้ว และเราจะเดินหน้ารณรงค์รับสมัครอย่างต่อเนื่อง โดยมีเป้าหมายภายในเดือนสิงหาคมนี้ ให้ได้สมาชิกพรรคเกิน 500 คน ตามกฎหมายเลือกตั้งกำหนด เพื่อสามารถจัดตั้งตัวแทนระดับอำเภอทั้ง 10อำเภอ เพื่อนำไปสู่การจัดตั้งสำนักงานสาขาพรรคประชาชนประจำจังหวัดตรังให้ได้ภายใน 6 เดือน เชื่อมั่นว่าด้วยนโยบายที่สืบต่อมา จะทำให้มีคนสนใจเข้าพรรคจำนวนมาก สำหรับพื้นที่จังหวัดตรังเองก็จะเดินหน้าสานต่อนโยบายต่อไป ด้วยการเปิดพื้นที่ลงพื้นที่รับฟังปัญหาประชาชน สร้างเครือข่ายประชาธิปไตยและเครือข่ายคนรุ่นใหม่มากขึ้น สำหรับพื้นที่จังหวัดตรัง
.
“หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ล้วนเป็นบุคคลที่มีอุดมการณ์ต่อเนื่องมาตั้งแต่อดีตพรรคอนาคตใหม่ อดีตพรรคก้าวไกล จนมาถึงพรรคประชาชน เราจึงมีความมั่นใจมากในเรื่องการทำงาน และต้องทำงานให้หนักร่วมกับสมาชิกเพื่อเป้าหมายเพื่อการเลือกตั้งทั่วไปในปี 2570 และเชื่อมั่นว่าพรรคประชาชนจะมีส.ส.ในพื้นที่จังหวัดตรังเกิดขึ้นได้ เนื่องจากการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2566 ของจังหวัดตรัง แม้อดีตพรรคก้าวไกลจะไม่ได้ที่นั่งส.ส.เขต แต่กลับได้รับคะแนนในระบบบัญชีรายชื่อมากเป็นอันดับ 1 ของจังหวัด โดยได้มากถึง 123,052 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 32.42 ของจำนวนผู้ออกมาใช้สิทธิ์ สะท้อนนัยยะสำคัญทางการเมือง ว่าชาวตรังเริ่มตื่นรู้ทางการเมือง และให้ความสำคัญเรื่องการเมืองมากขึ้น นับเป็นสัญญาณที่ดีของพรรคประชาชน ที่เรามุ่งใช้ระยะเวลาในการสร้างให้พรรคเป็นของประชาชน ไม่ผูกติดกับบุคคลกลุ่มกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง พรรคต้องเป็นของมวลชนทุกคนเป็นเจ้าของ และจากนี้เราก็ต้องทำงานให้หนักขึ้น”นายศุภกร กล่าว
.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2566 ของจังหวัดตรัง แม้อดีตพรรคก้าวไกลจะไม่ได้ที่นั่งส.ส.เขตในพื้นที่จังหวัดตรังทั้ง 4 เขตเลือกตั้ง(พรรคประชาธิปัตย์ 2 ที่นั่ง , พรรคพลังประชารัฐ 1 ที่นั่ง , พรรครวมไทยสร้างชาติ 1 ที่นั่ง) แต่ปรากฏว่าพรรคก้าวไกลกลับได้รับคะแนนในระบบบัญชีรายชื่อมากเป็นอันดับ 1 ของจังหวัด โดยได้มากถึง 123,052 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 32.42 ของจำนวนผู้ออกมาใช้สิทธิ์ รองลงมาคือพรรครวมไทยสร้างชาติ ตามมาด้วยพรรคประชาธิปัตย์เจ้าของพื้นที่เดิม พรรคเพื่อไทย พรรคพลังประชารัฐ พรรคภูมิใจไทย ตามลำดับ
.
ภาพ
.
.
.