.
ตรัง-ผู้ประกอบการสุรากลั่นชุมชนตรัง จัดเสวนา “เรื่องเล่า ในวงเหล้า” มีสุราชุมชนจากหลายจังหวัดทั่วประเทศเข้าร่วม ผู้ประกอบการสุราชุมชนตรัง ควง “ประชาชนเบียร์” เรียกร้องรัฐบาลชุดใหม่ปลดล็อคกฎหมาย ให้สุรากลั่นชุมชน-คราฟท์เบียร์ ได้เติบโต เปิดช่องทำการตลาด-ขายสินค้า ตบท้ายรายการ ดึง “เขียนไขและวานิช” ขับกล่อม
.
ที่ร้านโซนชิลล์ ดีดคลับ อ.เมืองตรัง ผู้ประกอบการสุรากลั่นชุมชนตรัง จัดงาน “เรื่องเล่าในวงเหล้า” ครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 15 กันยายน ที่ผ่านมา ซึ่งได้รับความสนใจสุรากลั่นชุมชน และคราฟท์เบียร์มาร่วมงาน มีการออกบูธจำหน่ายและชิมสุรากลั่นชุมชนและคราฟท์เบียร์จากผู้ผลิตโดยตรง ตลอดทั้งมีการตั้งโต๊ะเสวนาเรื่องสุราชุมชน และคราฟท์เบียร์ โดยนายธนากร ท้วมเสงี่ยม หรือ เบนซ์ ประชาชนเบียร์ เป็นผู้ดำเนินการเสวนา การเสวนาบรรดาผู้ประกอบการต่างก็เรียกร้องให้รัฐบาลชุดใหม่ ปลดล็อกข้อกฎหมายต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมชิมผลิตภัณฑ์ แลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างผู้ประกอบการ ตลอดจนผู้มาร่วมงาน ปิดท้ายรายการด้วยการแสดงดนตรีจากศิลปินชื่อดัง “เขียนไขและวานิช” บรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคัก ท่ามกลางผู้สนใจเข้าร่วมกว่า 300 คน
.
.
นายประสิทธิ สำนักเหยา ผู้ประกอบการสุรากลั่นชุมชนตรัง กล่าวว่า งานเรื่องเล่าในวงเหล้าครั้งนี้ มีการออกบูธแนะนำผลิตภัณฑ์ ของสุรากลั่นชุมชน ทั้งที่ผลิตในจังหวัดตรังและจากจังหวัดอื่น ๆ ทั่วประเทศ เช่น จ.ตราด จ.ตรัง จ.สุราษฎร์ธานี จ.สงขลา จ.กระบี่ จ.สงขลา ที่มาร่วมเปิดบูธกว่า 20 บูธ และมีการแสดงฟรีคอนเสิร์ตจากศิลปินเขียนไขและวาณนิช สุรากลั่นชุมชนหรือคราฟท์เบียร์ในแต่ละพื้นที่จะใช้วัตถุดิบเด่นในท้องที่นั้นมาเป็นวัตถุดิบหลัก ไม่ว่าจะเป็นสับปะรด ข้าว น้ำตาลอ้อย น้ำตาลตโนด และผลไม้ในท้องถิ่นนั้นๆ ซึ่งเมื่อช่วงกลางปีกระแสสุรากลั่นชุมชน เป็นที่พูดถึงกันในวงกว้าง ทำให้ยอดขายดีขึ้น เป็นที่รู้จักมากในวงกว้างขึ้น และได้รับความเชื่อถือมากขึ้น เพราะช่วงก่อนจะมีกระแสสุรากลั่นชุมชน สุรากลั่นชุมชนจะถูกมองว่าเป็นเหล้าเถื่อน ทั้งที่ความเป็นจริงหมายถึงสุรากลั่นที่ผลิตจากชุมชน ซึ่งคำว่าสุราเถื่อนในอดีตนั้น คือสุราที่ลักลอบผลิต ผลิตแบบไม่ได้มาตรฐาน ไม่มีใบอนุญาตการผลิต แต่สุรากลั่นชุมชนนั้นก็เหมือนสุรากลั่นแบบโรงงานยักษ์ใหญ่ มีการรับรองจากสรรพสามิต มีใบอนุญาตถูกต้อง ผ่านการตรวจคุณภาพ และจ่ายภาษีถูกต้อง ตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งสุราชุมชนสามารถนำไปรังสรรค์ได้หลายแบบ เช่น สุราแช่ ค็อกเทลได้หลากหลายเทียบเท่ากับสุราต่างประเทศ
.
นายประสิทธิ กล่าวอีกว่า ทิศทางของทำสุรากลั่นชุมชนมันติดอยู่ที่ ข้อกฎหมายเพียงอย่างเดียว จึงต้องขอวิงวอนภาครัฐให้ช่วยปลดล็อคชุมชน เรื่องข้ออ้างว่าจะทำให้มีนักดื่มหน้าใหม่ในกลุ่มเยาวชน และการห้ามโฆษณาสุราชุมชน ที่ความจริงต้องมาดูกันว่าปัญหาที่เกิดขึ้น ไม่ว่าเรื่องอุบัติเหตุก็ดีเกิดขึ้นทุกวันนี้ มาจากการดื่มสุราชุมชนจริงหรือไม่ เพราะทุกวันนี้สุราชุมชนมีช่องทางจำหน่ายที่จำกัด ไม่ได้วางขายทุกที่ เหมือนสุราหรือเบียร์ทั่วๆไป และทุกวันนี้ข้อจำกัดของกฎหมายล็อคไม่ให้ สุราชุมชนได้เจริญเติบโตในทางธุรกิจ เมื่อไปถามภาครัฐเรื่องเมื่อไหร่จะปลดล็อคข้อกฎหมาย ก็ได้รับคำตอบว่าอนุญาตให้ทำขายแล้ว 10 ล้านลิตรต่อปี และแน่นอนว่าผู้ประกอบการรายเล็กทำไม่ไหว หากผลิตไหวก็ไม่มีช่องทางขายอยู่ดี สิ่งที่อยากให้ภาครัฐช่วยเหลือ คือ 1 ช่วยเหลือเรื่องข้อกฎหมาย การโฆษณา 2 ช่วยเหลือเรื่องการขาย ซึ่งกลุ่มสุรากลั่นชุมชนไม่ได้ขออะไรมาก เขาอยากได้เพียงพื้นที่เล็กๆเพื่อได้ขายสินค้าบนชั้นวางสินค้าในห้างสรรพสินค้า ร้านสะดวกซื้อ ซึ่งรัฐมีอำนาจที่จะพูดคุยต่อรองกับนายทุนกลุ่มร้านค้าปลีก-ค้าส่ง เพื่อเป็นพื้นที่ให้สุรากลั่นชุมชนจากจังหวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศได้ไปวางขาย และหลังจากนั้นก็จะได้วัดกันเรื่องศักยภาพของผู้ผลิต คุณภาพของสินค้า ซึ่งตอนนี้สุราชุมชนแทบไม่มีที่ยืนเลย เพราะแม้แต่จะโฆษณาขายสินค้าก็ทำไม่ได้
…